สาว ๆ สายมูคนไหนชอบทำเล็บบ้างคะ? วันนี้เบอร์ดูดีจะพามาทำความรู้จักกับ Red nail theory หรือทฤษฎีเล็บสีแดง ที่มีความเชื่อว่าหากทาเล็บสีแดงจะช่วยเสริมดวงความรัก ทำให้มีเสน่ห์ อีกทั้งยังช่วยดึงดูดสิ่งดี ๆ อีกด้วย
หลายคนคงกำลังสงสัยว่าว่า Red nail theory หรือทฤษฎีเล็บสีแดงนี้คืออะไร และเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ มาหาคำตอบกันที่บทความนี้เลยค่ะ!
Red nail theory หรือทฤษฎีเล็บสีแดงปังจริงไหม?
สำหรับ Red Nails Theory หรือทฤษฎีเล็บสีแดง ว่ากันว่าเป็นความเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตได้ การทาเล็บสีแดงจะช่วยเสริมดวงความรัก ทำให้มีพลังความรักที่ช่วยให้พบรักกับใครสักคน มีเสน่ห์ และยังมีพลังในการดึงดูดเรื่องเงินทองและโชคลาภเข้ามาอีกด้วย
จากผลสำรวจพบว่า ผู้ชายมองว่าผู้หญิงที่สวมชุดสีแดงมีเสน่ห์มากกว่า และสีแดงจะเชื่อมโยงกับความโรแมนติก เรื่องเพศ และความหลงใหล อีกทั้งสีแดงเป็นที่ดึงดูดสำหรับทุกคน
สีแดงถูกหยิบมาใช้เป็นเฉดสีที่แสดงถึงความมั่นใจของผู้หญิง เเต่ในขณะเดียวกันเฉดสีนี้ก็แฝงไปด้วยความหมายในด้านอื่นๆ เช่น ความกล้าหาญ พลัง อำนาจเเละความรัก ทำให้เป็นเฉดสีที่ช่วยสร้างแรงดึงดูดและน่าหลงใหลให้กับผู้หญิง การที่ผู้หญิงทาเล็บสีแดงนั้นมักได้รับความนิยมจากผู้ชายมากขึ้น และด้วยความหมายเเละความเชื่อเหล่านี้เองทำให้ปัจจุบันผู้หญิงทั้งหลายเริ่มหันมาทาเล็บสีแดงเพื่อเสริมความโดดเด่นให้ตัวเอง
เคล็ดลับเสริมดวงความรัก! อัปเสน่ห์แบบคูณ2ด้วยตัวเลขมงคล
คู่เลขมงคล 24, 42
เป็นตัวเลขที่ช่วยให้ความรักสดใส โดยเฉพาะคนโสด ถ้าใช้คู่เลขนี้จะช่วยเพิ่มความมีเสน่ห์ ส่วนคนที่มีคู่หรือมีแฟนแล้วก็จะช่วยเสริมดวงความรักให้หวานชื่น
คู่เลขมงคล 36, 63
เป็นเลขที่เรียกว่า สวย หล่อเลือกได้ เป็นเลขแห่งความสำเร็จ ความสุข ความรัก จะช่วยเสริมดวงความรัก เพิ่มความมีเส่นห์ให้น่าค้นหา
คู่เลขมงคล 56, 65
ถือว่าเป็นเลขแห่งความอุดมสมบูรณ์เรื่องความรัก ความมีเหตุผล ความรักที่ดูอบอุ่น เป็นอีกหนึ่งเลขมงคลที่ช่วยดึงดูดสิ่งดี ๆ อีกทั้งยังช่วยเสริมดวงความรักอีกด้วย
ทฤษฎีเล็บสีแดงนั้นเป็นเพียงความเชื่อเเละทฤษฎีเท่านั้น แต่หากการทาเล็บสีแดงช่วยเสริมความมั่นใจให้เพื่อน ๆ มากขึ้นแล้ว เบอร์ดูดีก็เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์เเละคอยดึงดูดสิ่งดี ๆ และคนรอบข้างเข้ามาเสมอ อ่านจบแล้วพุ่งตัวไปจองคิวทาเล็บสีแดงด่วน!
คราวหน้าเบอร์ดูดีจะหาเคล็ดลับดี ๆ มาฝากเพื่อน ๆ อีกนะคะ โดยเพื่อน ๆ สามารถติดตามได้ที่ https://www.berdodee.com/บทความ
